Last updated: 17 ก.ย. 2566 | 219 จำนวนผู้เข้าชม |
โครงการ Content Lab เกิดจากความร่วมมือของ สำนักงานส่งเสริม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน 2566 เพื่อยกระดับทักษะการใช้เทคโนโลยีให้กับนักผลิตคอนเทนต์ หรือ Content creator โดยกูรูชั้นนำของเมืองไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และดิจิทัลคอนเทนต์
อีกทั้งยังเตรียมเดินหน้าเปิดรุ่น 2 เสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ป้อนอุตสาหกรรมคอนเทนต์ต่อเนื่อง พร้อมจะเพิ่มหลักสูตร Script Writing ขยายพื้นที่จัดกิจกรรม พร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ และต้องการปักหมุดไทยสู่ Creative Hub ในอาเซียนและเอเชีย
ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA เล่าว่า โครงการ Content Lab จะเป็นแพลตฟอร์มผลักดัน อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยให้ขายได้ ยกระดับให้ก้าวสู่ตลาดสากลจากพลังของการสร้างสรรค์ผ่าน Soft Power พร้อมขยายผลสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ดึงการจัดกิจกรรม Business Matching ไปสู่ International Content Market โดยเริ่มจากตลาดอาเซียนและประเทศสำคัญในตลาดเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นต้น
ทั้งนี้โครงการ Content Lab นับเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศในการผลักดันอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมคอนเทนต์สาขาภาพยนตร์และซีรีส์ ด้วยการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ พร้อมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เสริมด้วยความเข้าใจกลไกการทำงานทั้งระบบ ตั้งแต่การพัฒนาคอนเทนต์ไปสู่ความรู้ด้านการตลาดทั้งในประเทศและระดับสากล รวมทั้งการต่อยอดผลงานจากโครงการสู่การเจรจาทางธุรกิจเพื่อการผลิตออกสู่ตลาดสากล
มีอะไรใหม่บ้างใน Content Lab รุ่น 2
CEA จะนำข้อเสนอแนะจากการจัดในปีนี้ มาพัฒนาหลักสูตรการบ่มเพาะให้เข้ากับความต้องการของอุตสาหกรรมคอนเทนต์มากขึ้น รวมทั้งการขยาย หลักสูตรที่ลงลึกในแต่ละสาขา เช่น Script Writing สำหรับนักเขียนบทโดยเฉพาะ การเพิ่มเติมหลักสูตรสำหรับกลุ่มแอนิเมชัน นอกจากจากนั้นยังมีเป้าหมายขยายพื้นที่การจัดโครงการไปยังต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับนักผลิตคอนเทนต์ในวงกว้าง รวมทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ด้วยการเชื่อมต่อโปรแกรมการอบรมผ่าน Virtual Media Lab ที่จะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ ชั้น 4 TCDC กรุงเทพฯ
เชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) มองว่า โครงการ Content Lab เป็นแกนหลักในกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ ได้เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ นักเรียน นักศึกษาและบุคคลทั่วไป มีโอกาสเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีประกอบการสร้างสรรค์ผลงานผ่านการอบรมและ Workshop แบบเข้มข้น เสริมทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Virtual Production, AR/XR, AR location base, CG, 3D Model เป็นต้น จากผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าในสาขาต่างๆ ของเมืองไทย
อีกทั้งได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานใน XR Studio ชั้นนำของประเทศ เช่น Supreme Studio และ L&EStudio ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯ กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์จะได้พัฒนาความรู้และประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล สามารถสร้างผลงานที่ผสมผสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย พร้อมสำหรับการต่อยอดทางธุรกิจได้จริง
ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 19 ทีม
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มภาพยนตร์และซีรีส์ (Film & Series) จำนวน 13 ทีม ที่ได้มีโอกาสร่วม Business Matching กับสตูดิโอ ค่ายหนัง ผู้ผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ และสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มชั้นนำในระดับประเทศ และต่างประเทศกว่า 26 ค่าย เช่น WeTV, Netflix, Amazon Studios, iQIYI (Thailand), บริษัท จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด, GMMTV, บริษัท เนรมิตรหนังฟิล์ม จํากัด, บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด, บริษัท GDH 559 จํากัด และThe Monk Studios เป็นต้น
2.กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) นำเสนอภายใต้โจทย์ ‘Meaningful Travel ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์’ โดยมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 6 ทีม โดยแต่ละทีมได้นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการในสาขาต่างๆ โดยทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ LocalXplorer - แอปพลิเคชันสำหรับการท่องเที่ยว เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับชุมชน
รางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ Sermtat | Thai VR Boxing Game - เกมออกกำลังกายศิลปะแม่ไม้มวยไทยในโลกเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality Thailand Culture Guide – แอปพลิเคชันเพื่อนคู่ใจสำหรับนักท่องเที่ยวสายมู
นอกจากเงินรางวัลแล้วผู้เข้าแข่งขันยังสามารถนำความรู้และประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานมาต่อยอดเพื่อทำธุรกิจได้จริง รวมถึงยังเป็นโอกาสในการมองหานักลงทุนต่อไปในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ContentLab และCEA
10 ก.ย. 2567