"Philophobia" ภาวะกลัวความรัก ถึงขั้นตัวสั่น หายใจติดขัด

Last updated: 14 ก.พ. 2567  |  465 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Philophobia. Vimut health-hospital-vimut-Philophobia

 ทุกคนคงจะเคยมีความรู้สึกดีๆ หรือมี "ความรัก" ให้กับใครสักคนและยิ่งในช่วงเดือนแห่งความรักแบบนี้ มองไปทางไหนก็เห็นความรักเต็มไปหมด แต่สำหรับบางคน ความรักก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป ด้วยปมในอดีตและประสบการณ์ความรักแย่ๆ


การเริ่มต้นความสัมพันธ์อาจทำให้บางคนถึงกับตัวสั่น ปากซีด เหงื่อออกผิดปกติ ซึ่งอาจเข้าข่าย "โรคกลัวความรัก" โรคกลัวชนิดหนึ่งที่ทำให้เราเลี่ยงการมีความรัก และหากไม่หันมาดูแลหัวใจตัวเองดีๆ ก็อาจก็กระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้



พญ.เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต เล่าถึงอาการและสาเหตุของโรคกลัวความรัก พร้อมแนวทางการรักษาเพื่อให้เรามีความรักที่สดใสได้เหมือนทุกคนว่า โรคกลัวความรัก ไม่ต่างจากโรคกลัวอื่น


Philophobia
 คือ โรคกลัวเฉพาะเจาะจง (specific phobia) ที่เหมือนกับโรคกลัวความสูงหรือกลัวเลือด แต่ในกรณีนี้คือการกลัวที่เกี่ยวข้องกับความรัก ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะกลัวการเริ่มต้นความสัมพันธ์และกลัวการตกหลุมรัก และหากเริ่มรู้สึกชอบหรือมีคนเข้ามาจีบอาจรู้สึกเครียด


รวมถึงมีอาการทางกาย เช่น ตัวสั่น เหงื่อออก ปากซีด ใจสั่น แน่นอก หายใจไม่ออก เป็นต้น ซึ่งจริงๆ โรคนี้แต่ละคนก็มีอาการมากน้อยต่างกันไป บางคนอาจรู้สึกประหม่า กลัว พยายามหลีกหนีคนที่เข้ามาสานความสัมพันธ์ หรืออาจถึงขั้นรีบจบความสัมพันธ์แบบกะทันหัน ขึ้นอยู่กับว่ามีอาการกลัวมากน้อยขนาดไหน


ส่องสาเหตุ "โรคกลัวความรัก"


โรคกลัวความรักสามารถเกิดได้กับทุกคน โดยมีสาเหตุจากการพบเจอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักที่ไม่ดี จนเกิดอาการกลัวขึ้นมา เช่น ผู้ที่เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ดีในวัยเด็ก พ่อแม่หย่าร้างกัน เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน หรือไม่ได้รับความสนใจ รู้สึกถูกทอดทิ้ง เป็นต้น


ส่วนบางกลุ่ม ในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีความรัก อาจเคยถูกปฏิเสธ หรือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีจนสร้างบาดแผลในใจ ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ไม่ได้รับความรักเพียงพอ เช่น เด็กที่เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ จึงกลัวการสร้างความสัมพันธ์ เพราะรู้สึกว่าความรักหรือความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง



"คนที่ผิดหวังในความรักก็ไม่ได้ต้องเป็นโรคนี้ทุกคน อยู่ที่ว่าแต่ละคนเจอมาหนักขนาดไหนหรือรับมือกับมันได้เท่าไหร่ สมมติว่าเราเจอมาหนัก แต่เรารับมือได้ดี มีครอบครัวหรือเพื่อนคอยช่วยเหลือ มันก็อาจเป็นแค่แผลเล็กๆ กลับกันถ้าเราเกิดรับมือไม่ไหว ความรักก็อาจเป็นเรื่องน่ากลัวจนกลายเป็นโรคกลัวความรักไปเลย" 


บางคนอาจสงสัยกว่าการเป็นโรคกลัวความรักจะนำไปสู่การเข้าสังคมไม่ได้หรือเปล่า เพราะผู้ป่วยมักจะหลีกเลี่ยงการสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งจริงๆ คือไม่ได้มีผลแต่อย่างใด เพราะโรคนี้จะเกี่ยวข้องกับการกลัวความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่มีภาวะนี้ยังสามารถมีเพื่อนหรือทำงานร่วมกับผู้อื่นและสามารถเข้าสังคมได้ตามปกติ


บำบัดสม่ำเสมอก็หายได้


คนที่เป็นโรคกลัวความรักสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ไม่ยาก โดยหากรู้สึกหวาดกลัวความสัมพันธ์จนเกิดเป็นความวิตกกังวล เก็บไปฝันร้าย หรืออาการอื่นๆ ที่รู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิต นับว่าเป็นโรคกลัวความรักแล้ว ซึ่งแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา


โดยกระบวนการรักษานั้น ปกติการรักษาโรคกลัวความรัก จะมีวิธีรักษาเหมือนโรคกลัวอื่นๆ โดยเน้นปรับความนึกคิด และใช้วิธีพฤติกรรมบำบัดความกลัว ซึ่งผู้ป่วยต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เรามีอาการกลัวโรคนี้


จากนั้นจึงปรับความคิดไปทีละนิด หรือบางคนอาจใช้วิธีเผชิญหน้ากับความกลัว จนเริ่มคุ้นชินกับมัน บางกลุ่มอาจใช้วิธีเริ่มสร้างสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ก็จะช่วยให้เราสบายใจมากขึ้นและมีความรักได้โดยไม่มีอาการกลัว


ความรักจริงๆ เป็นสิ่งที่สวยงาม แต่บางคนอาจเจอสถานการณ์บางอย่างที่สร้างแผลใหญ่ในใจ จนนำไปสู่การเป็นโรคกลัวความรัก ซึ่งถ้าใครมีภาวะนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะสามารถรักษาหรือทำให้อาการของโรคดีขึ้นได้ภายใต้การดูแลของแพทย์


"การรักษาอาการนี้ก็เหมือนกับการมอบความรักให้กับตัวเอง และเมื่ออาการดีขึ้น เราจะได้กลับมามอบความรักให้กับคนอื่นได้อย่างมีความสุข" 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้