Last updated: 26 ก.ย. 2566 | 200 จำนวนผู้เข้าชม |
จากสถิติล่าสุดคนไทยป่วยเป็นโรคไต คิดเป็น 11.6 ล้านคน หรือ 17.5% ของประชากร ซึ่งมีอัตราผู้ป่วยสะสมมากกว่า 2 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 1 ใน 25 เป็นโรคไตเรื้อรังรายใหม่ ซึ่งผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ 3 มีจำนวนสูงถึง 420,212 คน ส่วนผู้ป่วยในระยะ 4 มีจำนวน 420,212 คน และผู้ป่วยในระยะที่ 5 ที่ต้องจำเป็นต้องล้างไตมีจำนวนมากถึง 62,386 คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โรคไตวายเรื้อรังมักพบในกลุ่มผู้สูงอายุและตอนนี้ไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูง (Aging Society) โดยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 500,000 คนต่อปี และคาดว่าในปี 2568 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สูงอายุ 1 คน ต่อจำนวนประชากร 5 คน
นายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอจี้ฮีโร่ จำกัด หรือ Agyhero เล่าว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยที่ต้องการรับการรักษาผ่าตัดด้านหลอดเลือด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือด (Hemodialysis) เป็นจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบันมีนโยบายในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยไตกรณีสิทธิบัตรทองฟอกเลือดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยรอคิวเข้ารับการรักษาจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลของรัฐมีผู้ป่วยหนาแน่น ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง
อีกทั้งจากประสบการณ์ทำงานของตนเองในโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์มานานและเป็นแพทย์เฉพาะทางชำนาญการเรื่องดูแลผ่าตัดเปลี่ยนไตคนไข้มาหลายปี พบว่ายังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งที่จำเป็นต้องรักษาโรคไตวายเรื้อรังด้วยการ ฟอกไต ฟอกเลือดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดเลือดที่ใช้ฟอกไตต้องได้รับการดูแลซ่อมรักษาเพื่อไม่ให้ตีบ โป่ง แตก ตัน และยังคงสามารถคงสภาพแข็งแรงเพื่อให้การเปลี่ยนถ่ายฟอกเลือด ฟอกไต ทำได้ดีเหมือนหลอดเลือดปกติ
บริษัทฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วด้านเวลาในการเข้ารักษาจึงได้เปิด Care-D Clinic (แคร์ดีคลินิก) ศูนย์ผ่าตัดหลอดเลือดที่มุ่งเน้นบริการด้านการรักษาผู้ป่วย “เส้นเลือดฟอกไต” ด้วยการผ่าตัดทั้งหลอดเลือดจริง หลอดเลือดเทียม และใส่สายฟอกไต รวมไปถึงการผ่าตัดเส้นเลือดขอด ด้วยวิธีสมัยใหม่ และรูปแบบรักษาให้บริการใส่พอร์ต (Port-A-Cath) เพื่อให้ยา สารอาหารทางเส้นเลือดและการผ่าตัดเพื่อดูแลแผล
โดยหัตถการดังกล่าวผู้ป่วยสามารถเดินทางกลับบ้านพักฟื้นได้อย่างปลอดภัย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สะดวกในการเข้านอนพักค้างคืนในสถานบริการ โดย Care-D Clinic |One Day Surgery มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์และมีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการผ่าตัดสมัยใหม่ในการรักษา
“ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาผ่าตัดหลอดเลือดกับแคร์ดีคลินิกจะได้รับความสะดวก รอคิวไม่นานและลดความแออัดในการเข้าใช้บริการที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายที่สามารถเข้าถึงได้ โดยรองรับผู้ป่วยคนไทยและต่างชาติโดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่เข้ามาช่วยให้การผ่าตัดด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ช่วยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด”
นิตยา ชไนศวรรย์ กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง พยาบาลวิชาชีพผู้คร่ำหวอดและมากประสบการณ์ในธุรกิจศูนย์ผู้สูงอายุ (Nursing Home) และศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Rehabilitation Center) เล่าว่า ความร่วมมือของทีมแพทย์และพยาบาลในครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่มาช่วยกันผลักดันมาตรฐานการรักษาสมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์และรองรับเทรนด์ของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์
โดย Care-D Clinic มีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยกลุ่มเส้นเลือดฟอกไต บนสถานบริการที่ทันสมัยและตอบโจทย์การเดินทางด้วยสถานที่ตั้งกลางเมือง
ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ตนเองดูแลบริหารธุรกิจศูนย์ผู้สูงอายุมากกว่า 20 ปี จึงมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ของ BHS group และ Doctor A to Z เป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในกลุ่มสูงอายุได้เข้าถึงบริการการรักษาเฉพาะทางที่ได้มาตรฐาน โดยสามารถรองรับการผ่าตัดได้ 10เคส ต่อวัน และตั้งเป้ามีผู้เข้าใช้บริการคลินิกจำนวน 1,200 คน ภายในปี 2567 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยและคนต่างชาติอยู่อาศัยในไทยรวมถึงต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามารับการรักษาในประเทศไทย
CareD Clinic ตั้งอยู่ใน โครงการ Well Ratchada 8/2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. 10900 สำหรับคนไข้และหรือพันธมิตรผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ารับบริการหรือรับคำแนะนำการรักษาที่ CareD ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 9:00-20:00 น. โทร.065-986-5242
29 ก.ค. 2567
18 พ.ย. 2567
11 มิ.ย. 2567