น้ำมะพร้าว กับ สมรรถภาพทางเพศ เรื่องจริงแค่เสี้ยวเดียว

สรรพคุณทั่วไปของ น้ำมะพร้าว ที่หลายคนรู้กันดีคือ บำรุงผิวพรรณ อุดมด้วยวิตามิน ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แต่ประเด็นที่ยังคงเป็นปริศนามาตลอดคือ ช่วยเพิ่มเรื่องสมรรถภาพทางเพศได้จริงหรือไม่

เมื่อไม่นานมานี้โรงพยาบาลพระรามเก้าได้เปิดเผยผลการศึกษาเรื่อง น้ำมะพร้าว ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ด้วยการให้หนูทดลองดื่มน้ำมะพร้าวกับในปริมาณ 50-100 CC ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน

ผลปรากฎว่าหนูทดลองมีระดับฮอร์โมนหลายชนิดสูงขึ้น รวมทั้งฮอร์โมนเพศชายและมีประสิทธิภาพในการผสมพันธุ์สูงขึ้นด้วย จึงอาจจะมีความเป็นไปได้ว่า ผลการทดลองนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในมนุษย์เช่นกัน แต่ถ้าเป็นมนุษย์ดื่มน้ำมะพร้าวในอัตราเดียวกับหนูทดลอง แสดงว่าใน 1 วัน ต้องดื่มละ 3-5 ลิตรเลยทีเดียว

ทั้งนี้ นายแพทย์อภาณุวัฒน์ พุทธเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ สถาบันรักษาความปวดและสร้างเสริมความเข้มแข็ง (Fix&Fit) โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรถ้าต้องดื่มน้ำมะพร้าววันละหลายลิตรเมื่อเปรียบเทียบกับการได้มาซึ่งฮอร์โมนเพศชาย แต่อย่าลืมว่าในน้ำมะพร้าว มีปริมาณน้ำตาลสูง และยังมีค่าโพแทสเซียมที่สูงมากอีกด้วย

โดยปริมาณการดื่มน้ำมะพร้าวสำหรับคนทั่วไป ไม่ควรเกินวันละ 2 ลูก หรือประมาณ 500 CC นั่นหมายความว่า ถ้าเราจะลองดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันแบบหนูทดลอง เท่ากับเราต้องดื่มเกินปริมาณที่แนะนำไปอย่างน้อย 6 เท่า และไม่มีอะไรมาการันตีว่าสมรรถภาพทางเพศจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

แต่สิ่งที่เราได้รับคือในน้ำมะพร้าวมีสารอาหารหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอะมิโนอิสระ สาร trophic factor ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์และยังมีเกลือแร่ที่มีประโยชน์ช่วยให้พลังงาน บำรุงร่างกาย รวมถึงช่วยให้คนที่ป่วยหรือบาดเจ็บสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ปกติหากจะให้ร่างกายได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ควรดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องว่าง ดื่มช่วงเย็น หรือดื่มช่วงก่อนนอนเพราะจะช่วยให้สาร trophic factor และกรดอะมิโน บำรุงเซลล์ร่างกายได้ดีในช่วงการนอนหลับ และยังช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นด้วย แต่เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีน้ำตาลและโพแทสเซียมอยู่มาก ดังนั้นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด จึงควรระมัดระวังในการดื่มให้ดี

ส่วนผลไม้ชนิดอื่นที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพได้แบบจริงๆ และมีสรรพคุณที่ดีกับร่างกายไม่แพ้น้ำมะพร้าว นายแพทย์อภาณุวัฒน์ แนะนำคือ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว กีวี่ ลูกหม่อน หรือเบอร์รี่ต่างๆ จะช่วยเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม ส่วน อะโวคาโด จะมีวิตามินบีสูงและมีกรดโฟลิก ที่ช่วยเรื่องการรักษาระดับฮอร์โมน

สำหรับ แตงโม จะมีสารซิตรูลีน ช่วยเพิ่มอาร์จินีน ซึ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดีขึ้น มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และทับทิม มีสารช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลกับอวัยวะเพศเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจากโรงพยาบาลพระรามเก้า